HOME.TITLE
สินค้า
สารกรอง-ไส้กรองน้ำ
สารกรอง-ไส้กรองน้ำ
สารกรองเรซิน (Cation Resin )
รหัสสินค้า : -สารกรองเรซิน (Cation Resin )
สารกรองเรซิน (Cation resin) สารกรองประเภทนี้จะมีอยู่ ๒ ประเภทคือเป็นแบบไออ้อนบวก และไออ้อนลบ โดยทั่วไปจะนิยมใช้แบบ แคทไออ้อนเรซิน หรือไออ้อนลบ โดยจะใช้นำมากรองความกระด้าง ความกระด้างเป็นสารละลายที่อยู่ในรูปของไออ้อนต่าง ๆ โดยสารกรองจะมีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยน ไอ อ้อน ซึ่งจะทำให้ความกระด้างออกจากน้ำ สารกรองเรซินเมื่อผ่านการใช้งานไปได้ระยะหนึ่งจะเสื่อมสภาพลงและหมดสภาพไปไม่ สามารถแลก เปลี่ยนไออ้อนได้อีก จึงต้องทำการฟื้นสภาพ หรือรีเจนเนอเรชั่น เพื่อให้มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนไออ้อนดังเดิม หรือ ใกล้เคียงสภาพ เดิม โดยทั่วไปในการฟื้นสภาพ เรซินจะใช้สารละลายเกลือแกงความเข้มข้นตามที่ผู้ผลิตกำหนด โดยให้ค่อย ๆ ไหลผ่าน หรือโดยแช่เรซินใน สารละลายดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง (๑ - ๒ ชั่วโมง) แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดให้หมดความเค็ม เรซินที่ผ่านการใช้งาน และการฟื้นสภาพมา หลายครั้งแล้ว จะมีความสามารถแลกเปลี่ยนไออ้อนลดลง จึงต้องทำการเปลี่ยนสารเรซินใหม่ โดยสเปคของผู้ผลิตระบุให้ อยู่ประมาณ ๓ - ๕ ปี ขึ้นอยู่กับสภาพและปริมาณการใช้น้ำของแต่ละแห่ง
จุดอ่อนของสารกรองเรซิน จะกรองกลิ่น สี คลอรีน ไม่ได้ และสารกรองจะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ไม่สามารถจับตัวได้แน่นพอที่จะกรองหรือกั้น ตะกอนแขวนลอยที่มากับน้ำได้
นอกจากสารกรอง ๒ ชนิดดังกล่าวแล้ว ยังมีสารกรองอีกหลายตัวที่ใช้กัน แต่อาจจะไม่นิยมนำมาใช้กัน หรือใช้กันน้อยมากในวงการค้า ขายเครื่องกรองน้ำ เช่นสารแอนทราไซด์, และแมงกานีส กรีนแซนด์ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและจำหน่ายของแต่ละแห่งจะเลือกใช้
ทำจากพลาสติกที่ทำเป็นรูปเม็ดกลมเล็กๆ เคลือบด้วยสารพวกคลอไรด์ มีวัตถุประสงค์ลดไนเตรทและซัลเฟต จากน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีบางอย่าง เช่น ผงซักฟอก การกรองโดยใช้เรซินชนิดแลกเปลี่ยนประจุชนิดประจุลบ ใช้วิธีทำให้น้ำผ่านข้างๆ สาร กรองเรซิน เกิดการแลกเปลี่ยนประจุลบ คลอไรด์จะหลุดไปในน้ำ และสารที่มีมีประจุลบ เช่น ไนเตรท และ ซัลเฟต จะเข้าไปแทนที่ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
รหัสสินค้า : -สารกรองเรซิน (Cation Resin )
สารกรองเรซิน (Cation resin) สารกรองประเภทนี้จะมีอยู่ ๒ ประเภทคือเป็นแบบไออ้อนบวก และไออ้อนลบ โดยทั่วไปจะนิยมใช้แบบ แคทไออ้อนเรซิน หรือไออ้อนลบ โดยจะใช้นำมากรองความกระด้าง ความกระด้างเป็นสารละลายที่อยู่ในรูปของไออ้อนต่าง ๆ โดยสารกรองจะมีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยน ไอ อ้อน ซึ่งจะทำให้ความกระด้างออกจากน้ำ สารกรองเรซินเมื่อผ่านการใช้งานไปได้ระยะหนึ่งจะเสื่อมสภาพลงและหมดสภาพไปไม่ สามารถแลก เปลี่ยนไออ้อนได้อีก จึงต้องทำการฟื้นสภาพ หรือรีเจนเนอเรชั่น เพื่อให้มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนไออ้อนดังเดิม หรือ ใกล้เคียงสภาพ เดิม โดยทั่วไปในการฟื้นสภาพ เรซินจะใช้สารละลายเกลือแกงความเข้มข้นตามที่ผู้ผลิตกำหนด โดยให้ค่อย ๆ ไหลผ่าน หรือโดยแช่เรซินใน สารละลายดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง (๑ - ๒ ชั่วโมง) แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดให้หมดความเค็ม เรซินที่ผ่านการใช้งาน และการฟื้นสภาพมา หลายครั้งแล้ว จะมีความสามารถแลกเปลี่ยนไออ้อนลดลง จึงต้องทำการเปลี่ยนสารเรซินใหม่ โดยสเปคของผู้ผลิตระบุให้ อยู่ประมาณ ๓ - ๕ ปี ขึ้นอยู่กับสภาพและปริมาณการใช้น้ำของแต่ละแห่ง
จุดอ่อนของสารกรองเรซิน จะกรองกลิ่น สี คลอรีน ไม่ได้ และสารกรองจะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ไม่สามารถจับตัวได้แน่นพอที่จะกรองหรือกั้น ตะกอนแขวนลอยที่มากับน้ำได้
นอกจากสารกรอง ๒ ชนิดดังกล่าวแล้ว ยังมีสารกรองอีกหลายตัวที่ใช้กัน แต่อาจจะไม่นิยมนำมาใช้กัน หรือใช้กันน้อยมากในวงการค้า ขายเครื่องกรองน้ำ เช่นสารแอนทราไซด์, และแมงกานีส กรีนแซนด์ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและจำหน่ายของแต่ละแห่งจะเลือกใช้
ทำจากพลาสติกที่ทำเป็นรูปเม็ดกลมเล็กๆ เคลือบด้วยสารพวกคลอไรด์ มีวัตถุประสงค์ลดไนเตรทและซัลเฟต จากน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีบางอย่าง เช่น ผงซักฟอก การกรองโดยใช้เรซินชนิดแลกเปลี่ยนประจุชนิดประจุลบ ใช้วิธีทำให้น้ำผ่านข้างๆ สาร กรองเรซิน เกิดการแลกเปลี่ยนประจุลบ คลอไรด์จะหลุดไปในน้ำ และสารที่มีมีประจุลบ เช่น ไนเตรท และ ซัลเฟต จะเข้าไปแทนที่ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
ถ่านหิน (anthracite)
รหัสสินค้า : -ถ่านหิน (anthracite)
ถ่านหิน ( anthracite ) คือ หินตะกอนชนิดหนึ่งและเป็นแร่เชื้อเพลิงสามารถติดไฟได้ มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีดำ มีทั้งชนิดผิวมันและผิวด้าน น้ำหนักเบา ถ่านหินประกอบด้วยธาตุที่สำคัญ 4 อย่างได้แก่ คาร์บอน ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และออกซิเจน นอกจากนั้น มีธาตุหรือสารอื่น เช่น กำมะถัน เจือปนเล็กน้อย ถ่านหินที่มีจำนวนคาร์บอนสูงและมีธาตุอื่น ๆ ต่ำ ประเภทของถ่านหิน
ถ่านหินสามารถแยกประเภทตามลำดับชั้นได้เป็น 5 ประเภท คือ
1. พีต (Peat) เป็นขั้นแรกในกระบวนการเกิดถ่านหิน ประกอบด้วยซากพืชซึ่งบางส่วนได้สลายตัวไปแล้ว แต่ซากพืชบางส่วนยังสลายตัวไม่หมด ยังมองเห็นเป็นลำต้น กิ่ง หรือใบ มีสีน้ำตาลถึงสีดำ มีปริมาณคาร์บอนต่ำ ประมาณร้อยละ 50-60 โดยมวล มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นสูงแต่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้
2. ลิกไนต์ (Lignite) เป็นถ่านหินที่มีสีน้ำตาลผิวด้าน มีซากพืชหลงเหลืออยู่เล็กน้อย มีคาร์บอนร้อยละ 60-75 มีออกซิเจนค่อนข้างสูง มีความชื้นสูงถึงร้อยละ 30-70 เมื่อติดไฟมีควันและเถ้าถ่านมาก มีความชื้นมาก เป็นถ่านหินที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า บ่มใบยาสูบ
3. ซับบิทูมินัส (Subbituminous) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าลิกไนต์ มีสีน้ำตาลถึงสีดำ ผิวมีทั้งด้านและเป็นมัน มีทั้งเนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง มีความชื้นประมาณร้อยละ 25-30 มีคาร์บอนสูงกว่าลิกไนต์ เป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพเหมาะสมในการผลิตกระแสไฟฟ้าและงานอุตสาหกรรม
4. บิทูมินัส (Bituminous) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าซับบิทูมินัส เนื้อแน่น แข็ง มีสีน้ำตาลถึงสีดำสนิท ประกอบด้วยชั้นถ่านหินสีดำมันวาว ใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อการถลุงโลหะ และเป็นวัตถุดิบเพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงอื่นๆ
5. แอนทราไซต์ (Anthracite) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าบิทูมินัส มีลักษณะดำเป็นเงา มันวาวมาก มีรอยแตกเว้าแบบก้นหอย มีปริมาณคาร์บอนประมาณร้อยละ 90-98 ความชื้นต่ำประมาณร้อยละ 2-5 มีค่าความร้อนสูงแต่ติดไฟยาก เมื่อติดไฟให้เปลวไฟสีน้ำเงิน ไม่มีควัน ใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่างๆ
การใช้ประโยชน์ถ่านหิน
ถ่านหินถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีแหล่งสำรองกระจายอยู่ทั่วโลกและปริมาณค่อนข้างมาก การขุดถ่านหินขึ้นมาใช้ประโยชน์ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ถ่านหินราคาถูกกว่าน้ำมัน ถ่านหินส่วนใหญ่จึงถูกนำมาเป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ใช้หม้อน้ำร้อนในกระบวนการผลิต เช่น การผลิตไฟฟ้า การถลุงโลหะ การผลิตปูนซีเมนต์ การบ่มใบยาสูบ และการผลิตอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการใช้ประโยชน์ในด้านอื่น เช่น การทำถ่านสังเคราะห์ (Activated Carbon) เพื่อดูดซับกลิ่น มีประสิทธิภาพในการใช้กำจัดกลิ่นและสี ตลอดจนสารเคมีต่าง ๆ เพื่อทำให้น้ำสะอาด และปลอดภัย อีกทั้งเป็นการส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
รหัสสินค้า : -ถ่านหิน (anthracite)
ถ่านหิน ( anthracite ) คือ หินตะกอนชนิดหนึ่งและเป็นแร่เชื้อเพลิงสามารถติดไฟได้ มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีดำ มีทั้งชนิดผิวมันและผิวด้าน น้ำหนักเบา ถ่านหินประกอบด้วยธาตุที่สำคัญ 4 อย่างได้แก่ คาร์บอน ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และออกซิเจน นอกจากนั้น มีธาตุหรือสารอื่น เช่น กำมะถัน เจือปนเล็กน้อย ถ่านหินที่มีจำนวนคาร์บอนสูงและมีธาตุอื่น ๆ ต่ำ ประเภทของถ่านหิน
ถ่านหินสามารถแยกประเภทตามลำดับชั้นได้เป็น 5 ประเภท คือ
1. พีต (Peat) เป็นขั้นแรกในกระบวนการเกิดถ่านหิน ประกอบด้วยซากพืชซึ่งบางส่วนได้สลายตัวไปแล้ว แต่ซากพืชบางส่วนยังสลายตัวไม่หมด ยังมองเห็นเป็นลำต้น กิ่ง หรือใบ มีสีน้ำตาลถึงสีดำ มีปริมาณคาร์บอนต่ำ ประมาณร้อยละ 50-60 โดยมวล มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นสูงแต่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้
2. ลิกไนต์ (Lignite) เป็นถ่านหินที่มีสีน้ำตาลผิวด้าน มีซากพืชหลงเหลืออยู่เล็กน้อย มีคาร์บอนร้อยละ 60-75 มีออกซิเจนค่อนข้างสูง มีความชื้นสูงถึงร้อยละ 30-70 เมื่อติดไฟมีควันและเถ้าถ่านมาก มีความชื้นมาก เป็นถ่านหินที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า บ่มใบยาสูบ
3. ซับบิทูมินัส (Subbituminous) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าลิกไนต์ มีสีน้ำตาลถึงสีดำ ผิวมีทั้งด้านและเป็นมัน มีทั้งเนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง มีความชื้นประมาณร้อยละ 25-30 มีคาร์บอนสูงกว่าลิกไนต์ เป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพเหมาะสมในการผลิตกระแสไฟฟ้าและงานอุตสาหกรรม
4. บิทูมินัส (Bituminous) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าซับบิทูมินัส เนื้อแน่น แข็ง มีสีน้ำตาลถึงสีดำสนิท ประกอบด้วยชั้นถ่านหินสีดำมันวาว ใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อการถลุงโลหะ และเป็นวัตถุดิบเพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงอื่นๆ
5. แอนทราไซต์ (Anthracite) เป็นถ่านหินที่ใช้เวลาในการเกิดนานกว่าบิทูมินัส มีลักษณะดำเป็นเงา มันวาวมาก มีรอยแตกเว้าแบบก้นหอย มีปริมาณคาร์บอนประมาณร้อยละ 90-98 ความชื้นต่ำประมาณร้อยละ 2-5 มีค่าความร้อนสูงแต่ติดไฟยาก เมื่อติดไฟให้เปลวไฟสีน้ำเงิน ไม่มีควัน ใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่างๆ
การใช้ประโยชน์ถ่านหิน
ถ่านหินถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีแหล่งสำรองกระจายอยู่ทั่วโลกและปริมาณค่อนข้างมาก การขุดถ่านหินขึ้นมาใช้ประโยชน์ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ถ่านหินราคาถูกกว่าน้ำมัน ถ่านหินส่วนใหญ่จึงถูกนำมาเป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ใช้หม้อน้ำร้อนในกระบวนการผลิต เช่น การผลิตไฟฟ้า การถลุงโลหะ การผลิตปูนซีเมนต์ การบ่มใบยาสูบ และการผลิตอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการใช้ประโยชน์ในด้านอื่น เช่น การทำถ่านสังเคราะห์ (Activated Carbon) เพื่อดูดซับกลิ่น มีประสิทธิภาพในการใช้กำจัดกลิ่นและสี ตลอดจนสารเคมีต่าง ๆ เพื่อทำให้น้ำสะอาด และปลอดภัย อีกทั้งเป็นการส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
ถ่านกัมมันต์ (activated carbon หรือ activated charcoal)
Activated charcoalรหัสสินค้า : -ถ่านกัมมันต์ (activated carbon หรือ activated charcoal)
ถ่านกัมมันต์ (activated carbon หรือ activated charcoal) โดยทั่วไปมันเป็นวัสดุที่ประกอบด้วย คาร์บอน ที่ได้จาก ถ่าน ถูกระบุว่าเป็นวัสดุที่มีพื้นที่ผิว สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถใน การดูดซับไนโตรเจนมีสูงมาก เพราะว่ามันมีรูเล็กๆ (microporosity) จำนวนมาก และสามารถเพิ่มพลังการดูดซับได้อีกโดยใช้สารเคมีปรับสภาพ
แอคทิฟคาร์บอน (active carbon) หรือ แอกทิเวตเทต คาร์บอน (activated carbon) เป็นถ่านที่มีสมบัติพิเศษที่ได้รับการเพิ่มคุณภาพหรือประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีสมบัติหรืออํานาจในการดูดซับสูงเนื่องจากมีรูพรุนขนาดเล็กเกิดขึ้นจํานวนมากและขนาดรูพรุนก็แตกต่างกันตั้งแต่ระดับไมโครเมตร จนถึงระดับนาโนเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีในการผลิตและวัตถุประสงค์ใน การใช้งาน วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถ่านกัมมันต์มีหลายชนิด วัสดุที่ใช้เป็นวัตถุดิบมักเป็นพวกอินทรีย์สารซึ่งประกอบด้วยคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่มักเป็นพวกเซลลูโลสที่มาจากพืชและต้นไม้เช่น ไม้ยางพารา ไม้ไผ่ เศษไม้เหลือทิ้ง และวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเช่น แกลบ กะลา มะพร้าว ขี้เลื่อย โดยทำการเผาด้วยความร้อนสูงในสภาวะที่ไม่มีอากาศ
Activated carbon ถูกนำไปใช้ในการกรองเอาสารประกอบอินทรีย์ต่างๆที่ไม่ต้องการออกจากของเหลวหรือก๊าซ เช่น ในการเตรียมน้ำดื่มบริสุทธิ อุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องใช้น้ำบริสุทธิ์ การบำบัดน้ำเสีย ใช้ในการฟอกสีของเหลวต่างๆ การทดลองวิจัยในการแยกและเตรียมสารเคมี ทางการแพทย์นำไปใช้ในการกำจัดพิษ การฟอกเลือด และอื่นๆ ใช้กรองกลิ่นและก๊าซที่ไม่ต้องการ ในหน้ากากกรองสารพิษ และเครื่องฟอกอากาศ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
Activated charcoalรหัสสินค้า : -ถ่านกัมมันต์ (activated carbon หรือ activated charcoal)
ถ่านกัมมันต์ (activated carbon หรือ activated charcoal) โดยทั่วไปมันเป็นวัสดุที่ประกอบด้วย คาร์บอน ที่ได้จาก ถ่าน ถูกระบุว่าเป็นวัสดุที่มีพื้นที่ผิว สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถใน การดูดซับไนโตรเจนมีสูงมาก เพราะว่ามันมีรูเล็กๆ (microporosity) จำนวนมาก และสามารถเพิ่มพลังการดูดซับได้อีกโดยใช้สารเคมีปรับสภาพ
แอคทิฟคาร์บอน (active carbon) หรือ แอกทิเวตเทต คาร์บอน (activated carbon) เป็นถ่านที่มีสมบัติพิเศษที่ได้รับการเพิ่มคุณภาพหรือประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีสมบัติหรืออํานาจในการดูดซับสูงเนื่องจากมีรูพรุนขนาดเล็กเกิดขึ้นจํานวนมากและขนาดรูพรุนก็แตกต่างกันตั้งแต่ระดับไมโครเมตร จนถึงระดับนาโนเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีในการผลิตและวัตถุประสงค์ใน การใช้งาน วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถ่านกัมมันต์มีหลายชนิด วัสดุที่ใช้เป็นวัตถุดิบมักเป็นพวกอินทรีย์สารซึ่งประกอบด้วยคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่มักเป็นพวกเซลลูโลสที่มาจากพืชและต้นไม้เช่น ไม้ยางพารา ไม้ไผ่ เศษไม้เหลือทิ้ง และวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเช่น แกลบ กะลา มะพร้าว ขี้เลื่อย โดยทำการเผาด้วยความร้อนสูงในสภาวะที่ไม่มีอากาศ
Activated carbon ถูกนำไปใช้ในการกรองเอาสารประกอบอินทรีย์ต่างๆที่ไม่ต้องการออกจากของเหลวหรือก๊าซ เช่น ในการเตรียมน้ำดื่มบริสุทธิ อุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องใช้น้ำบริสุทธิ์ การบำบัดน้ำเสีย ใช้ในการฟอกสีของเหลวต่างๆ การทดลองวิจัยในการแยกและเตรียมสารเคมี ทางการแพทย์นำไปใช้ในการกำจัดพิษ การฟอกเลือด และอื่นๆ ใช้กรองกลิ่นและก๊าซที่ไม่ต้องการ ในหน้ากากกรองสารพิษ และเครื่องฟอกอากาศ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
แมงกานีส (Manganese)
รหัสสินค้า : -แมงกานีส (Manganese)
แมงกานีส (Manganese)เป็นธาตุเคมีในตารางธาตุซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น Mn มีหมายเลขอะตอมเป็น 25 แร่แมงกานีสมักพบปะปนกับแร่ของเหล็ก และเนื่องจากแร่ของธาตุนี้ คือ pyrolusite มีสมบัติเป็นแม่เหล็ก จึงตั้งชื่อแร่นี้จากคำลาติน magnes แปลว่าแม่เ หล็ก (magnet) ซึ่งเทียบเท่ากับคำเยอรมัน Mangan และคำฝรั่งเศส manganese
จนกระทั่งการค้นพบธาตุอีก 2 ธาตุใหญ่ VII B คือ เทคนีเซียม (Tc) เลขอะตอม 43 และรีเนียม (Re) เลขอะตอม 75 ในปี ค.ศ. 1924 และ 1937 ตามลำดับ แมงกานีสเป็นธาตุเดียวเท่านั้นในหมู่ VII B ที่นักวิทยาศาสตร์รู้จัก
คุณสมบัติ ช่วยกำจัด โคลน, ตะกอน, ฝุ่น, สนิมเหล็ก ที่ปะปนมากับน้ำ เหมาะกับน้ำบาดาล น้ำคลอง และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
เหล็ก ในน้ำธรรมชาติส่วนใหญ่โดยเฉพาะในน้ำใต้ดิน จะพบเหล็กอยู่ด้วยเสมอ เหล็กเป็นสารที่ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ใช้น้ำประปา เช่น ทำให้น้ำมีสีแดงและมีกลิ่น ทำให้เกิดคราบสนิมเหล็กขึ้นกับเครื่องสุขภัณฑ์หรือทำให้ผ้าเปื้อน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารให้กับแบคทีเรีย (Iron bacteria) ทำให้น้ำประปามีกลิ่นและรสเป็นที่น่ารังเกียจ น้ำที่เพิ่งนำขึ้นมาจากใต้ดิน เช่น น้ำบาดาลจะใสเพราะเหล็กละลายอยู่ในน้ำในรูปเฟอร์รัส (Fe2+) แต่จะขุ่นเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนที่ได้จากอากาศ ทั้งนี้เพราะเฟอร์รัสจะถูกออกซิไดซ์กลายเป็นเฟอร์ริก (Fe3+) น้ำผิวดินมีเหล็กละลายอยู่น้อยกว่าน้ำบาดาล เหล็กที่พบในน้ำผิวดินอาจเป็นเหล็กอินทรีย์ซึ่งเป็นสารประกอบของเหล็กที่อยู่รวมกับสารอินทรีย์ ซึ่งเกิดจากการเน่าเปื่อยของพืชในน้ำ เหล็กชนิดนี้ให้สีเข้มแต่สามารถกำจัดออกจากน้ำได้ง่าย น้ำดื่มไม่ควรมีเหล็กเกินกว่า 0.3 มก./ล.
โลหะอื่น ๆ ปกติมักจะไม่พบในปริมาณมากนักในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือน้ำบาดาล นอกจากในกรณีที่แหล่งน้ำนั้นไหลผ่านบริเวณที่มีโลหะหนัก หรือถูกปะปนด้วยน้ำเสียที่มีโลหะหนักผสมอยู่ โลหะหนักพวกนี้ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว ไซยาไนด์และโครเมียม เป็นต้น ซึ่งแม้จะมีปริมาณน้อยแต่เมื่อบริโภคเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
รหัสสินค้า : -แมงกานีส (Manganese)
แมงกานีส (Manganese)เป็นธาตุเคมีในตารางธาตุซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น Mn มีหมายเลขอะตอมเป็น 25 แร่แมงกานีสมักพบปะปนกับแร่ของเหล็ก และเนื่องจากแร่ของธาตุนี้ คือ pyrolusite มีสมบัติเป็นแม่เหล็ก จึงตั้งชื่อแร่นี้จากคำลาติน magnes แปลว่าแม่เ หล็ก (magnet) ซึ่งเทียบเท่ากับคำเยอรมัน Mangan และคำฝรั่งเศส manganese
จนกระทั่งการค้นพบธาตุอีก 2 ธาตุใหญ่ VII B คือ เทคนีเซียม (Tc) เลขอะตอม 43 และรีเนียม (Re) เลขอะตอม 75 ในปี ค.ศ. 1924 และ 1937 ตามลำดับ แมงกานีสเป็นธาตุเดียวเท่านั้นในหมู่ VII B ที่นักวิทยาศาสตร์รู้จัก
คุณสมบัติ ช่วยกำจัด โคลน, ตะกอน, ฝุ่น, สนิมเหล็ก ที่ปะปนมากับน้ำ เหมาะกับน้ำบาดาล น้ำคลอง และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
เหล็ก ในน้ำธรรมชาติส่วนใหญ่โดยเฉพาะในน้ำใต้ดิน จะพบเหล็กอยู่ด้วยเสมอ เหล็กเป็นสารที่ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ใช้น้ำประปา เช่น ทำให้น้ำมีสีแดงและมีกลิ่น ทำให้เกิดคราบสนิมเหล็กขึ้นกับเครื่องสุขภัณฑ์หรือทำให้ผ้าเปื้อน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารให้กับแบคทีเรีย (Iron bacteria) ทำให้น้ำประปามีกลิ่นและรสเป็นที่น่ารังเกียจ น้ำที่เพิ่งนำขึ้นมาจากใต้ดิน เช่น น้ำบาดาลจะใสเพราะเหล็กละลายอยู่ในน้ำในรูปเฟอร์รัส (Fe2+) แต่จะขุ่นเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนที่ได้จากอากาศ ทั้งนี้เพราะเฟอร์รัสจะถูกออกซิไดซ์กลายเป็นเฟอร์ริก (Fe3+) น้ำผิวดินมีเหล็กละลายอยู่น้อยกว่าน้ำบาดาล เหล็กที่พบในน้ำผิวดินอาจเป็นเหล็กอินทรีย์ซึ่งเป็นสารประกอบของเหล็กที่อยู่รวมกับสารอินทรีย์ ซึ่งเกิดจากการเน่าเปื่อยของพืชในน้ำ เหล็กชนิดนี้ให้สีเข้มแต่สามารถกำจัดออกจากน้ำได้ง่าย น้ำดื่มไม่ควรมีเหล็กเกินกว่า 0.3 มก./ล.
โลหะอื่น ๆ ปกติมักจะไม่พบในปริมาณมากนักในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือน้ำบาดาล นอกจากในกรณีที่แหล่งน้ำนั้นไหลผ่านบริเวณที่มีโลหะหนัก หรือถูกปะปนด้วยน้ำเสียที่มีโลหะหนักผสมอยู่ โลหะหนักพวกนี้ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว ไซยาไนด์และโครเมียม เป็นต้น ซึ่งแม้จะมีปริมาณน้อยแต่เมื่อบริโภคเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ผู้ดูแลระบบ 16/06/2020
ไม่มีเนื้อหาที่จะแสดง